BBH อินสตราแกรมนิวส์

Breaking News - N/A

ข่าวมวยรอบโลก

ข่าวมวยจากเว็บบอร์ด

บทความพิเศษ

โลกกำปั้นโดยนายสังเวียน/สอดสร้อย

สปอนเซอร์ของเรา

Honey Gold Premium Soap
สบู่น้ำผึ้งทองคำ

ไทยแลนด์ รีพอร์ต


By : สร้อย มั่งมี  

Photo Credit : แฟ้าภาพของ สร้อย มั่งมี


ที่ โรงแรม Mytt Beach Hotel เมืองพัทยา ม.ล.วันชัย นวรัตน์ นายกสมาคมผู้ผลิตดำเนินรายการวิทยุและวิทยุโทรทัศน์ ( ประเทศไทย ) ประธานแถลงข่าว พร้อม นายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ นายกสมาคมครูมวยไทย และผู้สนับสนุน อาทิ นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิ การท่องเที่ยวเมืองพัทยา,ผช.ศ. อเนชา เพียรทอง ผอ.กองกิจการนักเรียนนักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ,คุณกุลญาดา พงษารัตน์ กก.บห.วินชิล กรุ๊ป,คุณทัชชกร พักกะพาก ผจก. ดี ครีเอทีฟ กรุ๊ป

เผยถึงความพร้อม เตรียมการจัดงาน “มหกรรมศิลปการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติครั้งที่ 5”ในคอนเซ็ปต์ The Glory Pattaya 2020 และเทศกาลอาหารนานาชาติ

“วู้ดดี้” นายชินวุธ นายกสมาคมครูมวยไทยเผย สมาคมของเรา เป็นสมาคมที่รวบรวมครูมวยไทย ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อจัดตั้งองค์กรเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศ มีการจัดพิธีไหว้ครูมวยไทยต่อเนื่องกันมากว่า 14 ปี รวมทั้งเตรียมการจัด “มหกรรมศิลปการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติ” ครั้งที่ 5 และเทศกาลอาหารนานาชาติจะมีขึ้น บริเวณชายหาดพัทยากลาง ตั้งแต่วันที่ 8 -16 มีนาคม 2020 โดยปีนี้จะมีการจัดงานขึ้นทั้งหมด 9 วัน 3 เวที มีนักมวยขึ้นชิงชัย และประกวดคีตะมวยไทยกันตลอดทั้งวัน นักมวยยอดฝีมือกว่า 1,000 คน จาก 6 ทวีป 48 ประเทศ ทั่วทุกมุมโลกจะมารวมกันอยู่ที่นี่รับรองว่าสนุกและดุเดือดตลอดทั้ง 9 วันแน่นอน

ทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือกับพัทยาและจังหวัดชลบุรี เพื่อจัดอีเวนท์นี้ขึ้นภายใต้ Concept ว่า The Glory Pattaya 2020 “Culture Festival Tourism attraction” ในงานนอกจากจะมีการแข่งขันมวยไทยแล้ว ยังจะมีเทศกาลอาหารนานาชาติ จากทั่วทุกมุมโลกเปิดบูธให้บริการ แก่นักท่องเที่ยวผู้สนใจตลอดงานอีกด้วย

สำหรับประเภทการแข่งขันคีตะมวยไทยชายหาด แบ่งเป็น 2 ประเภท 1.ทีมชาวไทย 6 คน(ชาย 3 หญิง 3) 2.ทีมต่างประเทศ 3 คน(ชาย-หญิง รวมกัน) รับสมัครในนามบุคคลทั่วไป สถานศึกษา หรือ หน่วยงาม ไม่จำกัด เพศ และ วัย โทรสอบถาม 081-405-5002 สมาคมครูมวยไทย

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

By : Boxing-Boy  

Photo Credit : www.sponichi.co.jp 


"มอนสเตอร์" นาโอยะ อิโนอุเอะ (19-0-0; 16KO) แชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ IBF และ The Ring และ ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน ของ WBA ชาวญี่ปุ่น ได้เริ่มซ้อมคู่ลงนวมแล้วเมื่อวันวานนี้ หลังจากที่พักฟื้นจากกระดูกเบ้าตาขวาแตก จากไฟต์ที่ชิงแชมป์ WBSS กับ "เดอะแฟลช" โนนิโต้ โดแนร์ จูเนียร์ เมื่อ 82 วันก่อน ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์ และได้อนุญาติให้เขาทำการลงนวมได้แล้ว

โดยเมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา อิโนอุเอะได้เดินทางไปทำการฟิตซ้อมที่ โอฮาชิ ยิม เหมือนที่เริ่มกลับมาซ้อมเบาๆได้สักพักหนึ่งแล้วก่อนหน้านี้ แต่พิเศษหน่อยก็ตรงที่เขาได้ลงนวมเป็นครั้งแรกแล้ว หลังจากที่แพทย์สั่งให้งดการลงนวมซ้อมคู่มาตั้งแต่หลังไฟต์ชิง WBSS จบลง เพราะกระดูกเบ้าตาขวาแตกจากพิษหมัดของโดแนร์ ซึ่งอิโนอุเอะนั้นก็ได้ทำการลงนวมกับ โทชิยะ อิชิอิ แชมป์ JBC Youth รุ่นแบนตั้มเวต เป็นจำนวน 5 ยก ยกละ 3 นาที ซึ่งต่างจากปกติที่เขาจะลงนวมซ้อมคู่แค่ครั้งละ 4 ยกเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าตัวของอิโนอุเอะนั้นก้็ได้กล่าวว่า เขาต้องการจะเพิ่มการลงนวมเป็นครั้งละ 5-6 ยก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายให้มากขึ้นกว่าเดิม มากกว่าในไฟต์ที่ชกกับโดแนร์เมื่อคราวที่แล้ว เพราะมีกำหนดการที่ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า จะต้องไปพิสูจน์ฝีมือกับ จอห์น รีล คาซิเมโร่ แชมป์โลก WBO รุ่นเดียวกันชาวฟิลิปปินส์ ในวันที่ 25 เมษายนนี้ ที่อเมริกา

อนึ่ง ในอนาคตอันใกล้ อิโนอุเอะนั้นกำลังวางแผนว่า จะมีการลงนวมแบบ 2 คนผลัดอีกด้วย และจะเพิ่มจำนวนยกของการลงนวมให้มากขึ้นด้วย เพราะโดยทั่วไปไฟต์ที่ผ่านมาๆของเขานั้น เขาก็ลงนมเพียงแค่คราวละ 60 ยกเท่านั้น และนอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังมีแผนที่จะเดินทางไปเข้าค่ายซ้อมที่เกาะกวม ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นระยะเวลา 5 วันด้วยเช่นกัน

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

By : ครูก้อง บางกุ้ง  

Photo Credit : Amanda Westcott / Showtime / www.boxingnews24.com  


@ แดนนี่ การ์เซีย (36-2, 21KOs) อดีตแชมป์โลก 2 พิกัดรุ่น(140/147ป.) เข็มขัดหลายเส้นหลายสถาบัน.. ก่อนนั้นอยู่ในขั้นยอดมวย แต่ช่วงหลังเริ่มดาวน์หลังการแพ้ 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน (แพ้ คีธ เธอร์แมน และ ชอว์น พอเตอร์).. Amanda Westcott/Showtime ...กลับมาชนะน็อก(ยก 7) เอเดรี่ยน กรานาโดส ได้รั้งอันดับสูงใน 3 สถาบันหลัก(#2WBC/WBA และ #1IBF) มีเค้าจะได้ชิงแชมป์โลกอีกครั้งในเร็วๆ นี้..

* ร้างสังเวียนไป 9 เดือน..ไฟต์หลังสุด(เมื่อ 25 มกราคมนี้) โชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง ชนะคะแนน อีแวน เรดคัช(23-5-1, 18KOs) แบบจืดชืด ทั้งๆ ที่ไฟต์นี้หวังน็อกเอ้าต์ โชว์ฟอร์มให้เข้าตา..

..ทว่า, ฟอร์มที่ออกมาไม่มีทีท่าว่าจะน็อกเอ้าต์คู่ชกได้เลย (ทั้งๆ ที่หมอนี้เคยแพ้น็อกมาแล้ว 2 ครั้ง)..

@ วันนี้.. แดนนี่ การ์เซีย แก้ขวย ด้วยการบอกว่า.. ฟอร์มแย่ๆ ของตนในไฟต์เมื่อวันเสาร์นี้ อาจโชคดีถูกเรียกไปชิงเข็มขัดจาก เออรอล สเปนซ์ฯ หรือไม่ก็ แมนนี่ ปาเกียว ก็ได้

* ขืนโชว์ฟอร์มเริด เจ้าของเข็มขัดอาจไม่กล้าชก..ว่างั้นเถอะ!

.. แก้ตัวหรือเปล่านี่ ?!..

* คลิกที่นี่เพื่อเข้าหน้ากระทู้เพื่อคอมเม้นต์บทความ

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

By : Boxing-Boy  

Photo Credit : FM Team 


WBA Asia ประกาศตัวผู้ท้าชิงคนที่ 3 ของ “เจ้าขาว” ถิระชัย ศิษย์หมอเส็ง แชมป์ WBA Asia รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต ออกมาแค่ไม่ทันข้ามวัน ล่าสุด คุณอนัน ไทคูณ แฟนมวยพันธุ์แท้ที่ใกล้ชิดกับ แกแล็คซี่ บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น ของโปรโมเตอร์นัยน์ตาชวนฝัน "แชแม้" คุณนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ก็ได้แจ้งมาว่า การชกในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ของ “เจ้าขาว” นั้น มีอันต้องเปลี่ยนตัวผู้ท้าชิงจาก อีริค คาเปีย มูคาดี้ มูลุมบ้า (22-3-2; 4KO) เจ้าของฉายา "แด็กซ์ โจลี่-เกอค์" นักชกวัย 27 ปีจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่ปัจจุบันมาหากินอยู่ที่แอฟริกาใต้เสียแล้ว

โดยผู้ท้าชิงคนใหม่ของ “เจ้าขาว” ก็เป็นนักชกที่มีโปรไฟล์คล้ายๆกัน เพราะเป็นนักชกวัย 26 ปีจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่มาหากินอยู่ในแอฟริกาใต้เหมือนกัน ซึ่งมีชื่อว่า ฟาราเดย์ มูกันดิล่า ทชิบาก้า (6-2-1: 4KO) เจ้าของฉายา “ดิ โอลด์ สกูล” แต่ต่างกันนิดหน่อยตรงที่มูกันดิล่านั้นมาเทิร์นโปรที่แอฟริกาใต้เลย ตั้งแต่เมื่ออายุได้ 22 ปี และการชกทั้ง 9 ไฟต์ที่ผ่านมาของเขานั้น เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ทั้งสิ้น

มูกันดิก้านั้นเป็นนักชกอาชีพคนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของการศึกษา เพราะเขานั้นได้รับประกาศนียบัตรทางด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์จากวิทยาลัย Sainte Rita college ในเขตเทศบาล มองต์-งาฟูลา ในบ้านเกิด โดยระหว่างศึกษานั้นเขาก็ได้ชกมวยยสากลสมัครเล่นคสบคู่ไปด้วย และโค้ชสมัครเล่นคนสุดท้ายของเขา อาลี ดจาเบอร์ ก็เป็นคนที่ได้แนะนำว่า เขานั้นสามารถที่จะเป็นนักชกอาชีพได้ แต่เนื่องจากในบ้านเกิดของเขานั้นอาจจะไม่มีการสนับสนุนกีฬามวยอาชีพอย่าเงป็นระบบสักเท่าไหร่ ดังนั้นโค้ชของเขาจึงได้แนะนำให้เขานั้นเดินทางมาเทิร์นโปรยังประเทศแอฟริกาใต้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

มูกันดิล่านั้นเป็นมวยเวลเตอร์เวตที่ถนัดขวาตามธรรมชาติ และปัจจุบันได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 5 ของนักชกพิกัด 147 ปอนด์ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (อันดับที่ 1 คือ อีริค คาเปีย) สถิติการชกใน 4 ไฟต์แรกของเขานั้นก็ดูธรรมดาๆทั่วไป เพราะชนะ 2 แพ้ 1 และเสมอ 1 แถมยังเป็นการชกครบยกทุกครั้ง อย่างไรก็ดีอีก 4 ไฟต์ต่อมาของเขานั้นก็ชนะรวด และก็ยังเป็นชัยชนะแบบไม่ครบยกถึง 3 ครั้ง เรียกว่าพัฒนาขึ้นได้อย่างชัดเจนทีเดียว

อย่างไรก็ดีการชกไฟต์สุดท้ายของมูกันดิล่านั้น มีขึ้นเมื่อวันที่  31 สิงหาคมปีที่ผ่านมา โดยเป็นการขึ้นชิงแชมป์ย่อยของสหภาพมวยแอฟริกาใต้ (ABU) นั่นก็คือแชมป์เวลเตอร์เวตของประชาคมเพื่อการพัฒนาแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community: SADC) หรือ ABU (SADC) กับ ทริสตัน ทรุตเตอร์ (8-2-0; 5KO) เพื่อนร่วมชาติผิวขาวกำปั้นหนัก ที่ได้ครองแชมป์เส้นนี้มาด้วยการชนะน็อคแค่ยกแรกในไฟต์ก่อนหน้า แล้วคราวนี้มูกันดิล่าก็คงจะไม่ทันระวังตัว เพราะถูกทรุตเตอร์ตะบันล้มกลิ้งล้มหงายถูกจับแพ้ TKO ไปในยกแรกเช่นเดียวกัน ทำให้เขานั้นมีรอยด่างจากการแพ้น็อคเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

กว่าจะถึงวันชกชิงแชมป์ WBA Asia รุ่น 154 ปอนด์กับ "เจ้าขาว" จริงๆ ก็จะเท่ากับว่ามูกันดิล่านั้นจะได้พักร่างกายนานถึง 6 เดือน และก็เชื่อว่าเขาก็คงจะลบภาพฝันร้ายในไฟต์ที่แล้วจากใจไปได้อย่างแน่นอน

* คลิกที่นี่เพื่อเข้าหน้ากระทู้เพื่อคอมเม้นต์บทความ

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

By : Boxing-Boy  

Photo Credit : WBA Asia 


แกแล็คซี่ บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น ของโปรโมเตอร์นัยน์ตาชวนฝัน "แชแม้" คุณนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ เตรียมจัดนักชกรุ่นใหญ่คู่บารมี "เจ้าขาว" ถิระชัย ศิษย์หมอเส็ง (43-1-0; 41KO) ขึ้นป้องกันแชมป์ WBA Asia รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตครั้งที่ 3 หลังจากที่ได้รับการสถาปนาจากแชมป์ WBA Asia SOUTH ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้แล้ว โดยทางเว็บไซด์ของ WBA Asia ได้ระบุว่าการชกของถิระชัยนั้น จะมีขึ้นในกรุงเทพมหานคร ในวันศุกร์ที่ 28 กุมพาพันธ์นี้ (สถานที่อย่างเป็นทางการต้องรอกการแถลงข่าวของโปรโมชั่นอีกครั้ง)

สำหรับคู่ชิงของเจ้าขาวในไฟต์นี้นั้นก็คือ อีริค คาเปีย มูคาดี้ มูลุมบ้า (22-3-2; 4KO)* เจ้าของฉายา "แด็กซ์ โจลี่-เกอค์" นักชกวัย 27 ปีจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่ปัจจุบันมาหากินอยู่ที่แอฟริกาใต้ ที่มีส่วนสูง 183 ซม. ซึ่งสถิติจาก BoxRec* ระบุว่าการชกอาชีพ 19 ไฟต์แรกนั้นเป็นการชกในบ้านเกิดของเขา และก็เป็นนักชกไร้พ่ายเสียด้วย เพราะชนะคะแนน 12 ชนะน็อค 3 และเสมอ 1โดยไม่มีพ่ายแพ้ใครเลย (* มีไฟต์ที่ไม่มีการตัดสินอยู่ด้วยครั้งหนึ่ง ที่ไม่ได้มีในตัวเลขสถิติดังกล่าว)

แต่หลังจากที่เขาเดินทางมาเป็นมวยในสังกัดโปรโมชั่นของแอฟริกาใต้นั้น ฟอร์มการชกของหมอนั้นดูท่าว่าจะไม่สวยหรูเอาเสียเลย เพราะมาประเดิมไฟต์แรกก็โดนจวกพ่าย TKO ไปในยกที่ 4 เสียแล้ว แถมการชก 7 หนในแอฟริกาใต้นั้นก็ชนะแค่ 3 หนเท่านั้น โดยที่เหลือเป็นการพ่ายน็อค 2 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง กับไม่มีการตัดสินอีก 1 ครั้ง

อย่างไรก็ดีในเดือนสิงหาคม 2018 คาเปียเดินทางกลับไปชกในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกบ้านเกิดอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นชิงแชมป์เวลเตอร์เวตของสภาพมวยแอฟริกา หรือ ABU ที่ว่าง กับ ซาเลเฮ เอ็มคาเล็คว่า (14-8-0; 4KO) นักชกจากแทนซาเนีย และก็เอาชนะคะแนนเอ็มคาเล็คว่าไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ คว้าเข็มขัดไปคาดเอวได้ในที่สุด ซึ่งเอ็มคาเล็คว่าร่ายนี้ก็คือคู่ชิงแชมป์ของถิระชัยในไฟต์ที่แล้วนั่นเอง

คาเปียขึ้นชกครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคมปีที่ผ่านมา โดยเดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวตของสหพันธ์มวยอาชีพโลก หรือ WPBF กับ วากีห์นัค ทัมราเซียน (16-7-0; 5KO) เจ้าของตำแหน่งชาวรัสเซีย แต่ก็พลาดท่าพ่ายคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ ทำให้ทัมราเซียป้องกันตำแหน่งหนแรกเอาไว้ได้สำเร็จ

ความจริงคาเปียนั้นมีโปรแกรมข้ามรุ่นไปชิงแชมป์ WBO Africa รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวต กับเจ้าของตำแหน่งเจ้าถิ่นชาวกานา แพ็คทริค อัลโลเต้ย์ (40-4-0; 30KO) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมปีที่ผ่านมา แต่เชื่อหรือไม่ว่าเพียงไม่กี่วันก่อนการชก ทางอัลโลเต้ยก็ถอนตัวไปดื้อๆ ก่อนที่จะหันไปขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวตของ WBO กับ ไฮเม่ มุงเกีย (35-0-0; 28KO) เจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิกันในอีกเดือนเดียวถัดไปเท่านั้น แต่ก็โดนมุงเกียถลุง 3 นับ พ่ายไปแค่ยกที่ 4 เท่านั้น ไม่สามารถที่จะชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 14 กันยายนปีที่แล้ว

แม้ว่าจะไม่รู้ว่าสรุปแล้วคาเปียจะได้ชกกับนักชกคนอื่นแทนในรายการวันที่ 10 สิงหาคม 2019 หรือไม่ แต่ก็ไม่มีข่าวอะไรออกมาอีกเลย แถมไม่รู้ว่ารายการเกิดขึ้นด้วยหรือเปล่า แม้ว่าก่อนหน้าการแข่งขันเพียงแค่ 3 วันจะยังมีข่าวของมวยรายการนี้อยู่เลย อย่างไรก็ดีแม้ว่าคาเปียนั้นอาจจะตกล็อคจากรายการดังกล่าว แต่คราวนี้เขาก็จะได้เดินทางมาชิงเข็มขัดแชมป์ WBA รุ่น 154 ปอนด์กับถิระชัยในเมืองไทยของเรา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และเชื่อว่าจะไม่มีตกล็อคอีกอย่างแน่นอน

* คลิกที่นี่เพื่อเข้าหน้ากระทู้เพื่อคอมเม้นต์บทความ

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

By : Boxing-Boy  @นิตยสารมวยโลก ฉบับที่ 1847 วันที่ 29 มกราคม 2563

Photo Credit : www.sportsmax.tv  


กลับมาพบกับ “สัพเพเหระมวยโลก” ร่างแปลงของ “เก็บตกจากแม็กกาซีน” เมื่อราว 20 ปีก่อน ที่มาโชว์โฉมเป็นครั้งแรกในปีหนูทองปีนี้ และพึ่งจะผ่านพ้นการเฉลิมฉลองตรุษจีนกันมาหมาดๆ ก็ขอให้เพื่อนๆ เฮงๆ รวยๆ สวยๆ หล่อๆสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์กันทุกๆคนนะครับ

มาเริ่มกันที่ข่าวคราวของคู่มวยที่อาจจะเรียกได้ว่าฮ็อตที่สุดยามนี้ก็คือ คู่ป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBA ของ คาห์ลิด ยาฟาย เจ้าของตำแหน่งชาวอังกฤษเลือดเยเมน ที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ โรมัน “ช็อคโกลาติโต้” กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 4 รุ่นชาวนิการากัว คู่ปรับเก่าของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกของ WBC 2 สมัยของรุ่นเดียวกันนี้ ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่กำลังจะมาถึง

ล่าสุดยาฟายได้ไปออกรายการทีวีของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเขาเองเชื่อว่าตนเองเป็นนักชกที่ดีที่สุดในพิกัด 115 ปอนด์ของโลกในยุคนี้ และเชื่อมั่นว่าตนเองจะเอาชนะ โรมัน กอนซาเลซ ได้อย่างแน่นอน แต่คงจะไม่ใช่การชนะน็อคเหมือนอย่างที่ ศรีสะเกษนครหลวงโปรโมชั่น นักชกชาวไทยทำได้ เพราะตนเองไม่ใช่มวยประเภทเดินหน้าท้าชนเหมือนกับทางโรมันแต่อย่างใด

ไม่เพียงเท่านั้นนักชกจอมฝีมือของอังกฤษรายนี้ยังได้กล่าวว่า แม้ว่าหลังจากไฟต์นี้แล้วนั้นตนเองอยากจะขึ้นล้มแชมป์โลกกับ ฮวน ฟรานซิสโก้ แชมป์โลกของ WBC ในรุ่นเดียวกันชาวเม็กซิกันต่อเลยทันที แต่ทางสมาคมมวยโลกได้สั่งให้ผู้ชนะระหว่างตนกับโรมัน จะต้องขึ้นป้องกันแชมป์โลกในไฟต์บังคับภายใน 120 วัน กับรองอันดับหนึ่งและแชมป์เฉพาะกาลของ WBA ในรุ่นนี้ชาวออสเตรเลีย แอนดรูว์ โมโลนีย์ เจ้าของฉายา “มอนสเตอร์” ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นน่าจะได้รับการสถาปนาให้เป็นแชมป์โลกตัวจริงไปแล้วเรียบร้อย อย่างนั้นก็หมายความว่าจะเป็นการป้องกันตำแหน่ง “ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน” กับ “แชมป์โลกปกติ” น่ะซี ว่าแต่ถึงตอนนั้นจะถึงคิว ยอดมงคล ซีพีเอฟ ชิงแชมป์อะไรสักอย่างของ WBA ในรุ่นนี้ด้วยหรือเปล่านะ?


Photo Credit: www.bokser.org

มาต่อกันที่คู่มวยที่แฟนมวยชาวไทยพากันรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ นั่นก็คือการป้องกันแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวตในไฟต์บังคับของ จอช เทย์เลอร์ เจ้าของฉายา “เดอะ ตาร์ตั้น ทอร์นาโด” แชมป์โลกในพิกัด 140 ปอนด์ของ IBF/The Ring และ ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน ของ WBA ชาวสกอตแลนด์ กับรองแชมป์โลกอันดับ 1 ของ IBF ชาวไทย ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก ซึ่งช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมานั้น ทั้งคู่ก็ได้มีข่าวออกมาในเรื่องของโปรโมชั่นแห่งใหม่ที่เข้ามาสนับสนุน โดยทางเทย์เลอร์ได้ทำการฉีกสัญญากับ ไซโคลน โปรโมชั่น ของอดีตแชมป์โลกชื่อดังชาวไอริช แบร์รี่ แม็คกีแกนไปซบ ท็อปแรงค์ โปรโมชั่นส์ ของโปรฯบ๊อบ อารัม โดยมีทางเอ็มทีเค โกลบอล เป็นแบ็กหนุนหลัง ส่วนทางดาวเหนือก็ได้ทาง แซมป์ซั่น บ็อกซิ่ง เข้ามาเป็นโปรโมชั่นร่วม โดยจะทำงานร่วมกับ เกียรติ์กรีรินทร์ โปรโมชั่น ของไทยเรา พร้อมๆกับที่ทางสหพันธ์มวยนานาชาติ ได้สั่งการให้ทีมงานของทั้ง 2 ฝ่ายมายื่นซองประมูลกันที่สำนักงานใหญ่ของสถาบันในนิวเจอร์ซีย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา

ใครต่อใครพากันคิดว่าทางท็อปแรงค์ฯ น่าที่จะทุ่มสุดตัว เพื่อที่จะดึงเอาคู่นี้ไปทำการชกกันในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการเปิดตัวของทางเทย์เลอร์ในแผ่นดินลุงแซมด้วย แต่พอถึงวันประมูลจริงๆก็กับกลายเป็นว่า แซมป์ซั่น บ็อกซิ่ง กลับเฉือนชนะประมูลไปด้วยตัวเลข 1.32 ล้าน ต่อ 1.26 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (65/35) เรียกได้ว่าพลิกความคาดหมายกันเลยทีเดียว และที่คาดไม่ถึงก็คือ แซมป์ซั่น บ็อกซิ่ง ประกาศว่าจะนำการชกไฟต์นี้ไปจัดขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจจะเป็นที่เกาะบริเตนใหญ่หรือสกอตแลนด์ที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งก็คือบ้านของทางเทย์เลอร์ ที่แพ้ประมูลมาหมาดๆนั่นเอง ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาไปจัดในบ้านของเทย์เลอร์ด้วย แต่ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเองก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ไซโคลน โปรโมชั่นส์ อาจจะมีเอี่ยวด้วยหรือเปล่า? และถ้ามีจริงๆก็อาจจะได้เห็นการแก้แค้นของ 2 พ่อลูกแม็คกีแกนก็เป็นไปได้? (บอกแล้วนะว่าคิดแบบเข้าข้างตัวเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือเปล่าด้วยนะ) ซึ่ง เชน แม็คกีแกน อดีตเทรนเนอร์ของเทย์เลอร์ก็ได้กล่าวสั้นๆหลังทราบผลการประมูลว่า "มันยอดเยี่ยมมากสำหรับคุณนะแซมป์ซั่น" เอ๊ะ มันยังไง?


Photo Credit: www.ringtv.com

ปิดท้ายกันด้วยข่าวคราวของ “ไอ้งูเหลือม” ดอนนี่ เนียเตส อดีตแชมป์โลก 4 รุ่นชาวฟิลิปปินส์ ที่ไม่ได้ขึ้นเวทีชกมวยถึง 14 เดือนแล้ว และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้คืนสังเวียนเมื่อไหร่ มีแต่ข่าวคราวไปปรากฏตัวที่นั่นที่นี่อยู่บ้างประปรายเพียงเท่านั้น ซึ่งทั้งตัวเขาและเทรนเนอร์พร้อมทั้งผู้สนับสนุนก็ได้เผยว่า พร้อมที่จะขึ้นเวทีอีกครั้งหากว่าได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจมากพอ

อย่างไรก็ดีสื่อมวยชื่อดังของฟิลิปปินส์ ได้วิเคราะห์อนาคตของยอดมวยรายนี้ว่า ตัวเลือกของทางเนียเตสนั้นมีน้อยลงเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่เขาสละตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวตของ WBO ไปด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการที่จะรีแมทช์กับ “ไอ้ก้านยาว” แอสตั้น ปาลิคเต้ นักชกเพื่อนร่วมชาติของเขาอีกครั้ง เขาก็ยังไม่เคยขึ้นเวทีตะบันหน้ากับใครอีกเลย และดูเหมือนว่าทางบอร์ดบริหารขององค์กรมวยโลกดูจะไม่พอใจมากเสียด้วย เพราะไม่เพียงแค่อนุมัติให้ทางปาลิคเต้ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกเส้นนี้ที่ว่าง กับทาง คาซูโตะ อิโอกะ ซึ่งทางนักชกญี่ปุ่นก็ได้ครองตำแหน่งไปในที่สุด พร้อมกับกลายเป็นนักชกญี่ปุ่นรายแรกที่ได้ครองแชมป์โลกถึง 4 รุ่น และหลังจากนั้นก็ได้อนุมัติให้ทางอิโอกะ ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในไฟตาบังคับกับ เจย์เวียร์ ซินตรอน รองอันดับสูงสุดชาวเปอร์โตริกัน โดยไม่ได้มีการพูดถึงตัวของเนียเตสเลยแม้แต่น้อย (ผลอิโอกะชนะคะแนนป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้) และไม่เพียงเท่านั้นอันดับโลก WBO ของเนียเตสก็หลุดหายไปในที่สุด

แม้ว่าไอ้งูเหลือมจะพยายามขอเข้าอันดับโลกใหม่ โดยเดินทางไปร่วมงานประชุมใหญ่ครั้งที่ผ่านมาของสถาบัน ที่มีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นก็ตาม แต่คำขอของเขาก็ไม่ได้รับการตอบรับจากทางคณะกรรมการจัดอันดับแต่อย่างใด ทำให้เขาก็ยังไม่มีชื่ออยู่ในทำเนียบรองแชมป์โลกของ WBO ในรุ่น 115 ปอนด์อยู่ดี และสื่อฟิลิปปินส์ยังเผยด้วยว่า เนียเตสก็ยังไม่มีชื่ออยู่ในอันดับโลกของทั้ง WBA และ IBF ในรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน จะมีก็แต่ทาง WBC เท่านั้นที่ยังคงให้เขามีอันดับโลกในรุ่น 115 ปอนด์อยู่ในปัจจุบัน โดยอยู่ในอันดับที่ 5 ของการจัดอันดับล่าสุด ต่อจาก ศรีสะเกษนครหลวงโปรโมชั่น, โรมัน กอนซาเลซ, ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์ และ คาร์ลอส คัวดราส

สื่อชื่อดังแดนตากาล๊อกยังกล่าวอีกว่า คนทางเดียวที่เนียเตสจะกลับมาชิงแชมป์โลกได้อีกครั้งนั้น เขาเองจะต้องขึ้นชกกับนักชกรองแชมป์โลกสถาบันใดสถาบันหนึ่งเสียก่อน จะเป็น ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์ WBC#3, คาร์ลอส คัวดราส WBC#4 ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ WBO#3 (คู่ปรับเก่า), แอนดรูว์ โมโลนี่ย์ WBA#1 (แชมป์เฉพาะกาลWBA), ยอดมงคล ซีพีเอฟ WBA#3 หรือ โกกิ เอโตะ IBF#2 รายหนึ่งรายใดก็ได้ เพื่อที่จะดันตัวเองให้กลับมาเข้าดับโลกสถาบันหลัก ให้ได้ครบทั้งหมดอีกครั้ง อย่างไรก็ดีสื่อรายนี้ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า แต่ก่อนที่เนียเตสจะมาชกกับมวยที่มีอันดับอย่างที่ว่า เขาก็ควรที่จะหามวยระดับธรรมดาๆมาอุ่นเครื่องก่อนสักหนึ่งไฟต์ เพราะร้างเวทีมามากกว่าหนึ่งปีนั่นเอง ซึ่งสื่อดังกล่าวก็ได้ทิ้งท้ายเอาไว้แบบแสบๆคันๆว่า คู่อุ่นเครื่องของเนียเตสนั้นจะเป็นนักชกชาติไหนก็ได้ แต่ขออย่าเป็นนักชกอิเหนาก็แล้วกัน!?

ก็ขอจบสัพเพเหระมวยโลกครั้งแรก ประจำปีพุทธศักราช 2563 เพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในฉบับต่อๆไปสลับกับเรื่องยาวนะครับ

Boxing-Boy

Facebook Comment เชิญข้างล่างนี้เลยครับ

Website Hit Counter
HTML Counter

วัดโพธิ์แมนคุณาราม
จัดทำลิ้งค์ถวายเป็นพุทธบูชา

Announcement

"เรียนนักข่าว, เว็บมาสเตอร์, บล็อกเกอร์, และ แอดมินเพจ ที่เคารพรักทุกท่าน, เว็บไซด์แห่งนี้เกิดขึ้นจากคำว่า "รักในกีฬามวยสากลอาชีพ" ดังนั้นเราจึงไม่มีการสงวนลิขสิทธิ์ในงานเขียนและข่าวแต่อย่างใด ทุกท่านสามารถที่จะแชร์ ก็อปปี้ หรือทำซ้ำในรูปแบบต่างๆได้ ขอเพียงแต่ช่วยเราแก้ไขคำที่พิมพ์ผิดพลาด และคงรักษาวันและเวลาจริงที่ระบุในเนื้อข่าวเอาไว้ให้ถูกต้อง รวมไปถึงให้เครดิตแก่แหล่งที่มาของภาพประกอบข่าว ส่วนจะให้เครดิตเว็บหรือไม่เราไม่ซีเรียสแต่อย่างใดครับ"

นิตยสารมวยโลก 1847 - 29 ม.ค. 63

บิวตี้ฟูล ไฟเตอร์ - RENA KUBOTA

BBH แฟนเพจ

BBH ทวิตนิวส์

Boxing Clip


BBH แชนแนล

Website Hit Counter